.
เชียงคาน เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทยของภาคอีสานตอนบน เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม วิถีชีวิต ที่มีอัตลักษณ์แบบเรียบง่ายตามแบบดั้งเดิม แต่วันนี้เมืองเล็กๆ แห่งนี้กลับเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต้อนการมาเยือนสักครั้งหนึ่ง หรือบางคนก็มาเยือนแล้วหลายครั้งไม่มีเบื่อ
หากทอดสายตามองออกไปยังถนนสายเล็กๆ ที่มีบ้านเก่าๆ เรียงรายอยู่ริมถนนชายโขง ไม่แปลกใจที่ทำไมจึงดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเดินทางกันมาที่นี่ เพราะถนนที่ชื่อว่า “ถนนศรีเชียงคาน” แม้ดูเป็นเส้นทางเล็กๆที่เรียบง่าย แต่ก็มีเสน่ห์น่ให้ชวนเดินตั้งแต่ต้นถนนไปจนสุดปลายทาง ระยะทางราว 2 กิโลเมตร ที่ตัดคู่ขนานไปกับแม่น้ำโขง และถนนใหญ่สายหลัก เพราะตลอดสองข้างทางตั้งแต่ซอยที่ 1-24 มีบ้านเรือนไม้ซึ่งในอดีตเป็นที่พักอาศัย แต่ปัจจุบันถูกปรับปรุงให้เป็นที่พักพัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านขายสินค้าตกแต่งแบบเก๋ๆ จนทำให้ถนนเส้นนี้ไม่เงียบเหงา ส่วนของกินมีตั้งแต่ปิ้ง ย่าง นึ่ง ทอด ที่สามารถซื้อใส่ห่อเดินทางไปชมสินค้าไปก็ยังได้ หากเหนื่อยเมื่อยขา ก็มีทั้งร้านนวด ร้านอาหาร ให้แวะพัก ผ่อนคลาย และอิ่มท้อง
ของขายที่เราจะเห็นกันคุ้นตาเมื่อมายังที่แห่งนี้ เช่น กุ้ง ปู ข้าวจี่ ย่านกินร้อนๆ ของใช้เสื้อผ้าก็มีมีมากมายตามสไตล์ตลาดนัดกลางคืน แต่แตกต่างจากที่อื่น คือบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่ไม่เหงา ไม่น่าเบื่อ เรียกว่าเดินช้อปกันแบบเพลินๆ ซื้อหาของกิน ของใช้ ของที่ระลึก เช่น ปาท่องโก๋ยัดไส้, ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว, กุ้งฝอยย่าง, ข้าวจี่, ปูปิ้ง และอื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนักท่องเที่ยวจะนิยมเดิมชมและซื้อของกินของใช้ในย่ามค่ำคืนอย่างเพลิดเพลินแล้ว เชียงคานในช่วงเช้าและกลางวันของถนนเส้นเดิมแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่สืบทอดประเพณีวัฒนธรรมการตักบาตร เพราะในทุกๆเช้าตั้งแต่เวลา 05.30 น. ชาวบ้าน ชุมชน และนักท่องเที่ยวที่ตื่นมารับหมอกยามเช้า บรรยากาศสงบ แล้วจิตใจยังได้สงบ จากการได้ตักบาตรข้าวเหนียว วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเชียงคาน ชาวบ้านเกือบทุกหลังจะลุกขึ้นมาตักบาตรข้าวเหนียวแต่เช้าตรู่ โดยการตัดบาตรที่ถูกต้องและเป็นวิถีของที่แห่งนี้คือต้องใส่เฉพาะข้าวเหนียวเท่านั้น ส่วนกับข้าวหรือของอื่นๆ ชาวบ้านจะนำไปถวายพระที่วัดในช่วงสาย กะเวลาที่พระจะกลับถึงวัดแล้ว
วิธีการตักบาตร คือ หยิบข้าวเหนียวจากกระติ๊บมาหยิบกำมือ เหมือนกับเราตักข้าวสวย แล้วใส่ลงไปในบาตรพระ จนครบทุกองค์ วิธีการตักบาตรแบบนี้ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดและถือปฏิบัติของชาวเชียงคาน
ถนนเส้นนี้อีกเช่นกันที่มีกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ คือการปั่นจักรยานเที่ยวชมและถ่ายรูปกับร้านค้า บ้านเก่า หรือร้านกาแฟ นั่งเล่นชิลๆๆ ซึ่งในความวุ่นวายของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย แต่เชียงคานแห่งนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตที่สงบ เรียบง่าย บนใบหน้าของชาวบ้านผู้คนย่านนี้จะเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร
สำหรับทริกในการเดินถนนคนเดินเชียงคานให้สนุก แนะนำว่าให้มาเดินวันศุกร์ วันเสาร์ เพราะร้านค้าจะเปิดเยอะทั้งของกินของใช้ บรรยากาศจึงคึกคักกว่าวันธรรมดา แต่สำหรับใครที่ชอบความเงียบสงบ slow life หรือต้องการซึมซับบรรยากาศแบบดั้งเดิม แนะนำว่าให้มาวันธรรมดาก็จะได้เห็นเชียงคานในอีกมุมมองหนึ่ง วันนี้ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเชียงคาน คือ ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน 100 แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ที่มีความยั่งยืนทางด้านวัฒนธรรมวิถีชีวิต จากหน่วยงานระดับโลก Green Destinations Foundation ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเป็นการคัดเลือกที่ผ่านการกลั่นกรองร่วมกับคณะผู้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ITB (Internation Tourism Borse) กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี การได้รับการจัดอันดับครั้งนี้จึงนับเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ไม่เฉพาะแค่ชาวเมืองเชียงคาน และหากพ้นสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 มั่นใจว่าประเทศไทย และเมืองเชียงคาน จะเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะต้องปักหมุดไว้ในแผนการเดินทางอย่างแน่นอน